ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่เคยมีพืชพรรณนานาชนิด และสามารถใช้เป็นพืชอาหารได้ตั้งแต่อดีตกาล จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว และมีการนำเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนาพืช จนบางครั้งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สารเคมี เป็นต้น ตลอดจนทำให้ต้นทุนการผลิตพืชสูงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมกำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และตกต่ำ ประชาชนมีรายจ่ายสูงในการซื้อหาวัตถุดิบ เพื่อการประกอบอาหารรวมถึงสถานการณ์ตื่นตัวในด้านสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารอาหารจากพืช ดังนั้น ถ้าหากได้ให้ความสนใจทางเลือกใหม่ คือ ผักพื้นบ้าน ซึ่งเป็นพรรณผักพื้นบ้านหรือพรรณไม้ในท้องถิ่นที่ชาวบ้านนำมาบริโภคเป็นผักตามวัฒนธรรมการบริโภคแต่ละท้องถิ่น โดยได้มาจากแหล่งธรรมชาติ จากเรือกสวน ไร่นา หรือการปลูกไว้บริเวณบ้าน เพื่อสะดวกในการเก็บบริโภค ผักพื้นบ้านเหล่านี้อาจมีชื่อเฉพาะแตกต่างตามท้องถิ่น นอกจากบริโภค พรรณไม้เหล่านี้ ยังถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรค เป็นเครื่องมือในการดำรงชีพ เป็นเครื่องแต่งกาย และบางประเภทมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย บทบาทของผักพื้นบ้านบางชนิดยังทรงคุณค่าต่อวิถีชีวิตของคนไทยในแต่ละพื้นที่ นับเป็นมรดกตกทอดของบรรพชน เป็นผลแห่งการเรียนรู้ สังเกตุ จดจำ นำมาใช้ที่มีคุณค่าไม่เพียงสุขภาพอนามัยเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางนิเวศน์ ที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตที่โยงใยถึงชีวิต ทางศาสนา พิธีกรรม และประเพณีแต่ละท้องถิ่น จากการรวบรวมและวิเคราะห์พบว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง และหากนำมาเปรียบเทียบกับผักเศรษฐกิจที่ส่งเสริมการปลูกในปัจจุบันแล้ว คุณค่าทางโภชนาการไม่ได้แตกต่างกัน บางชนิดกลับมีคุณค่าสูงกว่าพืชผักเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเป็นแหล่งคุณค่าทางโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ ของประชาชนในชนบท และการปลูกเพื่อส่งเสริมรายได้ ซึ่งจะเป็นทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรในการลดรายจ่ายประจำวันลงได้บ้าง
จากการสำรวจผักพื้นบ้านที่วางขายในตลาดสดตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย พบว่ามีผักพื้นบ้านที่ใช้เป็นอาหารและประโยชน์ทางยากว่า 300 ชนิด แต่จะมีประมาณ 50 ชนิด ที่นำมาจำหน่ายในตลาดตามฤดูกาลเป็นประจำ โดยชนิดและปริมาณจะเปลี่ยนแปลงไปตามท้องถิ่นและฤดูกาล พืชผักเหล่านี้ราคาซื้อขายยังไม่ชัดเจนแน่นอน แต่สามารถทำรายได้ให้แก่ครอบครัวที่เก็บผักป่ามาขาย แนวโน้มทางด้านการตลาดของผักพื้นบ้านไทยที่มีอนาคตสดใส สามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับผักพื้นบ้านบางชนิดได้รับความนิยมเพราะเป็นผักที่ออกตามฤดูกาล หายาก หรือมีเฉพาะบางท้องถิ่น เมื่อถึงฤดูกาลจะมีชาวบ้านพากันไปเก็บไปหา แล้วนำมาขาย บางทีพ่อค้าคนกลางไปรับซื้อถึงที่แล้วนำมาขายต่ออีกที ผักพื้นบ้านเหล่านี้จะมีรสชาดอร่อย และเมื่อประชาชนหันมาให้ความสนใจกับผักปลอดสารพิษ ปลอดสารเคมี จึงทำให้ความนิยมในผักพื้นบ้านดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้พิจารณาและให้ความสนใจกับผักพื้นบ้านที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจาย ทั่วประเทศนำมาคัดเลือก จัดระบบ และรวบรวมเป็นหลักแหล่งซึ่งจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ผักพื้นบ้านเหล่านี้ เพื่อใช้เป็นพืชอาหาร และใช้ในการยังชีพต่อไป และทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผักพื้นบ้าน เพื่อเผยแพร่ สู่เกษตรกรและผู้สนใจ ที่จะทำการผลิต หรือจะบริโภค ได้สืบค้นข้อมูลได้จาก ชุดข้อมูลเกี่ยวกับผักพื้นบ้านที่ได้รวบรวมจัดทำเป็นสารสนเทศไว้นี้ โดยข้อมูลจะประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่ 1 ความรู้วิชาการเกี่ยวกับผักพื้นบ้าน เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับผักพื้นบ้าน ตามหลักวิชาการทางพฤกษศาสตร์ ส่วนที่ 2 ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของผักพื้นบ้าน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และมีความมั่นใจในการบริโภคผักพื้นบ้านมากยิ่งขึ้น ส่วนที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักพื้นบ้าน ที่มีความนิยมให้เป็นผักพื้นบ้านเชิงเศรษฐกิจ เพื่อการจำหน่ายหรือเพื่อการปลูกไว้บริโภค ภายในครัวเรือนเอง ส่วนที่ 4 สูตรอาหารปรุงจากผักพื้นบ้าน เป็นส่วนข้อมูลที่ได้รวบรวมมาไว้สำหรับการส่งเสริมการบริโภคผักพื้นบ้าน ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษได้สืบสานต่อ ๆกันมา ในหลายชั่วอายุคนไว้ด้วย ส่วนที่ 5 สูตรน้ำพริก ซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การบริโภคผักพื้นบ้าน มีรสชาติมากยิ่งขึ้น น้ำพริกผัก ดูจะเป็นสิ่งคู่กัน อย่างที่จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ในส่วนที่ 6 อัลบั้มรูปภาพผักพื้นบ้าน ที่สามารถจัดหามาประมวลรวมไว้ เพื่อให้เป็นที่รู้จักและอาจใช้ประโยชน์เพื่อการส่งเสริมเผยแพร่ สำหรับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรได้ต่อไป