กรมการข้าว...ได้รับรายงานจากผู้ประสานงานวิจัยการพยากรณ์ศัตรูข้าว จากนักวิชาการศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ที่ทำการติดตามการระบาดของ แมลงหล่า ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 49 ถึงมกราคม 50...อันเป็นการระบาดข้ามปี
โดย...พบว่ามีปริมาณแมลงหล่าเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากคิดเฉลี่ย 146 ตัวต่อวัน และมีปริมาณสูงสุด ถึง 364 ตัวต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว จึงได้สั่งการให้ศูนย์วิจัยข้าวที่อยู่ในเขตภาคกลาง ได้แก่ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี, ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา, ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี, ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา, ศูนย์วิจัยข้าวสุพรรณบุรี, ศูนย์วิจัยข้าวราชบุรี และศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท ให้เตรียมความพร้อมเพื่อป้องกัน และแก้ปัญหาแมลงหล่าระบาดในพื้นที่ปลูกข้าวของเกษตรกร
หลายชีวิต...ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ติดตามข้อมูลส่วนตัวของ แมลงหล่า มาเสนอให้ท่านได้รู้จักตัวทำลายข้าว อันเป็นอาหารของพวกเราให้ได้รู้กัน
เจ้าตัวนี้...มันมีชื่อสามัญว่า rice black bug และ Malayan black bug หรือเพลี้ยหล่า, กือซิงฆูรอ, กูมอ และอีบู เป็น มวนชนิดหนึ่ง มีลักษณะลำตัวค่อนข้างกลมคล้ายโล่ ด้านหัวและอกเป็นรูปสามเหลี่ยม ลำตัวมีสีน้ำตาลหรือดำเป็นมันวาวยาว 7-8 มิลลิเมตร กว้าง 4-5 มิลลิเมตร
เพศผู้มีขนาดเล็ก กว่าเพศเมีย ชอบอาศัยรวมกลุ่มที่โคนต้นข้าวเหนือระดับน้ำในตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนจะเคลื่อนย้ายขึ้นบนต้นข้าว เพศเมียวางไข่ประมาณ 200 ฟอง โดยวาง ไข่เป็นกลุ่มจำนวน 20-26 ฟองต่อกลุ่ม เรียงเป็นแถวขนานกัน
โดยวางไข่ที่ใบข้าวบริเวณโคนต้นข้าวใกล้ระดับผิวน้ำหรือบางครั้งอาจจะวางบนพื้นดิน ไข่มีสีชมพูแกมเขียว ระยะไข่ 4-6 วัน ตัวอ่อนมีสีน้ำตาลและสีเหลืองกับจุดสีดำ ระยะตัวอ่อน 20-30 วัน ตัวอ่อนมีพฤติกรรมเหมือนตัวเต็มวัย คือ ชอบหลบซ่อนอยู่ที่โคนต้นข้าวหรือตามรอยแตกของพื้นดินในตอนกลางวัน และหากินในตอนกลางคืน
ตัวแมลงหล่า เต็มวัยมีอายุนานถึง 214 วัน อยู่ข้ามฤดูหนาวหรือฤดูแล้ง โดยพักตัวอยู่ในร่องระแหงดินในพื้นที่มีหญ้าขึ้น เมื่อสภาพภูมิอากาศเหมาะสมจะบินเข้าแปลงนาและขยายพันธุ์หลายรุ่น ตัวเต็มวัยสามารถอพยพได้ระยะทางไกล
สำหรับ ต้นข้าวที่ถูกแมลงหล่าดูดกินน้ำเลี้ยง จากกาบ ใบข้าวบริเวณโคนต้นข้าว ทำให้บริเวณที่ถูกทำลายเป็นสีน้ำตาลแดงหรือเหลือง ขอบใบข้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำคล้ายข้าวเป็นโรคไหม้ ตามข้อของลำต้นข้าว ซึ่งเป็นบริเวณที่แมลงหล่าชอบเพราะเป็นแหล่งที่มีน้ำเลี้ยงมาก การทำลายในระยะข้าวแตกกอทำให้ต้นข้าวที่อยู่กลางกอข้าวมีอาการแคระแกร็น มีสีเหลืองแกมน้ำตาลและการแตกกอลดลง
...ถ้าทำลายหลังระยะข้าวตั้งท้องทำให้รวงข้าวแกร็นออกรวงไม่สม่ำเสมอ และรวงข้าวมีเมล็ดลีบ ต้นข้าวอาจเหี่ยวตายได้ ถ้ามีแมลงจำนวนมากทำให้ต้นข้าวแห้งไหม้คล้ายกับถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลาย แมลงหล่าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต...
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวถึงการป้องกันกำจัดว่า ให้ใช้แสงไฟฟ้าล่อแมลงและทำลาย ในช่วงที่มีการระบาด เนื่องจากแมลงหล่าชอบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน ปลูกข้าวที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น เพื่อลดการเพิ่มประชากรในนาข้าว กำจัดวัชพืชที่ขึ้นหนาแน่นในนาข้าว เพื่อให้ข้าวโปร่ง แสงแดดส่องถึงโคนต้นข้าวทำให้สภาพนาข้าวไม่ เหมาะแก่การอยู่อาศัย หมั่นตรวจนาข้าว
สำหรับการใช้สารฆ่าแมลงให้ใช้ไธอะโทแซม (แอกทารา 25 WG) หว่านอัตรา 12-16 กรัมต่อไร่ หรือไดโนทีฟูเรน (สตาร์เกิล 10 SL) อัตรา 10-20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคาร์โบซัลแฟน (พอสซ์ 20% EC) อัตรา 80 มิลลิเมตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นหรือเฉพาะจุดที่มีการระบาดโดยพ่นบริเวณโคนต้นข้าว จะสามารถป้องกันเจ้าแมลงหล่าได้ทันท่วงที...
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์วิจัยข้าวทุกแห่งหรือหน่วยงานของกรมการข้าวในพื้นที่ใกล้บ้าน.
|