เห็ดเข็มทอง เดิมเป็นเห็ดที่ขึ้นบนตอไม้ตามธรรมชาติในเขตหนาว สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพที่เป็นน้ำแข็งจนกระทั่งน้ำแข็งละลาย จึงเรียกอีกชื่อว่าเห็ดเหมันต์ (Winter Mushroom) เห็ดเข็มทองที่ขึ้นตามธรรมชาติจะมีดอกขนาดเล็กและก้านสั้น ส่วนเห็ดเพาะที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะมีดอกเล็ก ก้านยาว และขึ้นรวมกันเป็นกระจุก เนื่องจากเทคนิคการผลิต เพื่อให้ได้ปริมาณและน้ำหนักที่ดี ง่ายต่อการเก็บดอก การบรรจุ และการขนส่ง
รสหวานอร่อยตามธรรมชาติของเห็ดเข็มทอง เกิดจากกรดกลูตามิก (Glutamic acid) ซึ่งเป็นสารประกอบชนิดเดียวกับที่พบในผงชูรส และแม้จะเป็นอาหารดั้งเดิมในแถบเอเชียตะวันออกอย่างจีนและญี่ปุ่น แต่ด้วยรสชาติคล้ายผักและกลิ่นไม่จัดของเห็ดเข็มทองทำให้สามารถเข้ากับอาหารไทยหลายชนิดได้ดี เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ใส่ในไข่เจียว ลาบ พล่า ลวกจิ้มน้ำพริก โดยเฉพาะใส่ในยำต่าง ๆ ก็ให้รสหวานเคี้ยวกรุบ แต่ในการใช้เห็ดเข็มทองปรุงอาหารต้องทำให้สุกทุกครั้ง เพราะเห็ดเข็มทองดิบอาจมีพิษ
คุณค่าทางโภชนาการของเห็ดเข็มทองก็มีไม่น้อยหน้าเห็ดชนิดอื่น ๆ คือ มีโปรตีนร้อยละ 25 ไขมันร้อยละ 1 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 53 เส้นใยอาหารร้อยละ 12 มีวิตามินบี 1 และวิตามินซี ส่วนสรรพคุณทางยาคือ มีสารเฟรมมูลิน (Flammulin) ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเยื่อบุช่องท้อง และเซลล์มะเร็ง Sarcoma 180 ในหนูขาวได้ผลถึงร้อยละ 81.1-100 สารเฟลมมูลินนี้ยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสิ่งมีชีวิต ถ้ากินเห็ดเข็มทองเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ แผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้อักเสบเรื้อรังได้